วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ประวิต์ส่วนตัว


ณัฐพร เพชโรภาส (ณัฐ)
คติประจำใจ  ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น  

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

วัดไผ่โรงวัว อำเภอสองพี่น้อง

วัดไผ่โรงวัว สมัยก่อนเป็นวัดที่ใครๆที่มาสุพรรณ ต้องแวะกราบใหว้ และชมความสวยงาม ใหญ่โตของพุทธศิลปะ ต่อมาการจัดการภายในไม่ดี ทำให้วัดเริ่มไม่มีระบบระเบียบ เป็นภาพที่ไม่สวยงามกับผู้มาพบเห็น แต่ปัจจุบันได้มีการจัดระบบภายในวัด ให้เป็นระเบียบมากขึ้น ทำให้วัดเริ่มกลับมาสวยงาม เหมือนเดิม ถึงจะไม่ 100% แต่ก็นับว่าพัฒนาขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
วัดไผ่โรงวัว ตั้งอยู่ที่ ตำบลบางตาเถร ห่างจากตัวจังหวัดสุพรรณบุรี ประมาณ 43 กิโลเมตร หรือจากกรุงเทพฯประมาณ 70 กิโลเมตร  ตามเส้นทางสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี มีทางแยกซ้ายก่อนถึงสามแยกลาดบัวหลวงเข้าสู่วัดไผ่โรงวัว  วัดนี้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2469 เป็นวัดที่มีพุทธ-ศาสนิกชน และบุคคลทั่วไป นิยมไปเที่ยวชมกันมาก หลวงพ่อขอม  ได้ดำเนินการก่อสร้าง “พระพุทธโคดม” เป็นพระพุทธรูปโลหะสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย  เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 17 ปี  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงยกพระเกตุมาลา เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2512ภายในวัดมีสิ่งก่อสร้างเกี่ยวกับพุทธศาสนา ได้แก่  “สังเวชนียสถาน 4 ตำบล”  คือสถานที่ที่พระพุทธเจ้า ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน  กับงานประติมากรรมหรือภาพปั้นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัตินรกภูมิ  รวมทั้งวรรณคดีและประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังมี  “พระธรรมจักร”  หล่อด้วยทองสำริดใหญ่ที่สุดในโลก  “พระกะกุสันโธ”  พระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ที่สุดในโลก “ฆ้องและบาตร” ใหญ่ที่สุดในโลก  “พระวิหารร้อยยอด” รวมทั้งสิ่งก่อสร้างอื่นๆ อีกมากมาย

โบราณสถานตุมปัง


โบราณสถานตุมปัง (ร้าง) เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่ในเขต อ. ท่าศาลา  จ.นครศรีธรรมราช นั้น ได้พบแหล่งโบราณคดีที่ได้รับอิทธิพลของวัฒนธรรมอินเดียแพร่กระจายอยู่เป็นจำนวนมาก ร่องรอยที่เหลือให้เห็นอย่างเด่นชัด คือ ศาสนสถานในศาสนาพราหมณ์ ทั้ง ไศวนิกาย และ ไวษณพนิกาย จากการสำรวจแหล่งโบราณคดี วัดตุมปังร้างโดยกรมศิลปากร ในปี พ.ศ. 2536 พบชิ้นส่วนท่อนล่างของรูปเคารพสลักจากหินซึ่งสันนิษฐานว่า เป็น เทวรูป องค์พระนารายณ์
            จากการขุดค้น และการขุดแต่งโบราณสถานตุมปังนี้ มิได้คาดหวังว่าแหล่งโบราณสถานนี้จะสามารถศึกษาย้อนหลังไปได้ไกลถึงยุคแรกเริ่มประวัติศาสตร์ของนครศรีธรรมราช เพราะจากการสำรวจแสดงให้เห็นลักษณะรูปแบบที่เป็นรุ่นหลังลงมาแล้ว  แต่สิ่งที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้คือ การจัดลำดับช่วงเวลาของชุมชน เจ้าของโบราณสถานไว้ในช่วงใดช่วงหนึ่งตั้งแต่ยุคแรกเริ่มประวัติศาสตร์จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ซึ่งนี่ถือเป็นการเริ่มต้น เรียงลำดับตารางเวลาของประวัติศาสตร์นครศรีธรรมราช นั่นเอง
            โบราณสถานตุมปัง (ร้าง) อยู่ในเขต มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ต.ไทยบุรี อ. ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช สามารถเดินทางจากตัว อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปตามถนนหลวงหมายเลข 401 มายังอำเภอท่าศาลา ก่อนถึงตัวอำเภอประมาณ 2 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าไปในมหาวิทยาลัย มุ่งหน้าไปสู่ถนนวลัยตุมปัง ซึ่งเป็นถนนเส้นเดียวกับที่ตั้งโรงผลิตน้ำประปาของมหาวิทยาลัย แหล่งโบราณคดี ตั้งอยู่บริเวณสุดถนนก่อนจะออกสู่แหล่งชุมชน

เมืองโบราณ


เมืองโบราณ - ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางปูใหม่ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 33 ถนนสุขุมวิท (สายเก่า) ห่างจากตัวจังหวัด 8 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รวบรวมสถานที่สำคัญ ๆ ในประเทศ มีพื้นที่ประมาณ 800 ไร่ เริ่มก่อสร้างเมื่อปลายปี 2506 ปูชนียสถานที่สำคัญๆ เช่น เขาพระวิหาร ปราสาทหินพนมรุ้ง วัดมหาธาตุสุโขทัย พระพุทธบาทสระบุรี พระธาตุเมืองนคร พระธาตุไชยา ฯลฯ โดยสร้างให้มีขนาดเล็กลง บางแห่งเท่าแบบจริงการสร้าง ฝีมือประณีต นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งรวบรวมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านที่นับวันจะสูญหายไปจากสังคมยุคใหม่ ผู้ที่ต้องการศึกษาค้นคว้าเรื่องราวของประเทศไทยจะศึกษาได้จากเมืองโบราณแห่งนี้
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทเมืองโบราณ จำกัด ตำบลบางปู กิโลเมตรที่ 33 โทร. 02 709-1644  สำนักงานกรุงเทพฯ มุมอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง โทร. 0 2224 1057, 0 2226 1936-7



Read more: http://www.paknam.com/thai/ancient-siam.html#ixzz2khI8vJhE

พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ จ.ประจวบคีรีขันธ

พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ จ.ประจวบคีรีขันธ์

tem_ple13_resize

พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ’ ประติมากรรมอันงดงามกลางเขาธงชัย พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ตั้งอยู่บนยอดเขาธงชัย สร้างเพื่อถวายแก่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ครองราชสมบัติครบ 5๐ ปี ในพื้นที่กว่า 3 ไร่ เป็นสถานที่ก่อสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ซึ่งหากมองไกล ๆ จากที่สูงจะมองเห็นเป็นประดุจวิมานลอยฟ้าสร้างเป็นอาคารชุดหลังเดียวขนาดใหญ่มาก มีเจดีย์ประธานและหมู่เจดีย์ล้อมอีก 8 องค์
tem_ple03_resizeด้านล่างก่อนที่จะถึงบริเวณทางขึ้นพระมหาเจดีย์นั้น จะเป็นลานกว้าง ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของ “พระพุทธกิติสิริชัย” ซึ่งทางคณะสงฆ์วัดทางสายร่วมกับชาวบ้านสร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ โดยสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกประธานถวายนามว่า“พระพุทธกิติสิริชัย” สำหรับอาคาร 5 ชันนั้น ประกอบด้วย ชั้นใต้ดิน เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และพิพิธภัณฑ์ลายไทยของ ม.ร.ว.มิตรารุณ เกษมศรี ชั้นถัดมาเป็นชั้นพื้นดิน ชั้นที่ 3 เป็นชั้นพระวิหาร สำหรับรับผ้ากฐิน รับผ้าป่าและฟังธรรมเทศนา สามารถจุคนได้ถึง 1,000 คน ตรงกลางของชั้นนี้ เป็นพระพุทธรูป 4อิริยาบถ ประจำ 4 ทิศและเมื่อเราเดินออกมาด้านนอกอาคารบริเวณระเบียง ชั้น 4เราจะเห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบของหาดบ้านกรูด เวิ้งหาดที่ยาวสุดลูกหูลูกตา ทิวแถวของต้นมะพร้าว และความเงียบสงบซึ่งการได้มาเที่ยวที่พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศครั้งนี้ถือว่าคุ้มสุดคุ้ม…
ทั้งนี้ ในส่วนของชั้นที่ 1-4 เปิดให้พุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมได้ทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น.ส่วนชั้นที่ 5 ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอยู่ภายในบุษบกและประดิษฐาน พระพุทธรูปทองคำปางประจำพระชนมวาร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเปิดให้พุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยว ได้สักการะ เฉพาะเทศกาลวันวิสาขบูชา จำนวน 3 วัน คือ ขึ้น 14 ค่ำ ขึ้น 15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี ส่วนแสงไฟโดยรอบพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศจะเปิดเฉพาะวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย (บ้านควาย) Buffalo Village

ไปเที่ยวมาแล้วซาบซึ้งมาก โดนปลากระโดดใส่เปียกเลย 555+